รวมสไตล์การขับรถที่เสี่ยงโดนแบล็คลิสต์ ประกันชั้น 1 ไม่รับเคลม

เมื่อประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ไม่ได้คุ้มครองทุกสิ่งในการขับขี่ แล้วการขับขี่แบบไหนล่ะ  ที่ประกันฯ ชั้น 1  ไม่อยากรับเคลม เราไปดูกันค่ะ 




 

หลายๆ คนเข้าใจผิดคิดว่า ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่จ่ายค่าเบี้ยประกันแพงที่สุด จะต้องให้ความคุ้มครองสูงสุดในทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุรถชนแบบไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นรถชนรถ หรือคู่กรณีมิใช่รถ ทั้งยังรวมถึงกรณีรถหาย, รถไฟไหม้, รถน้ำท่วม, และอื่นๆ  

แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้นนะคะ เพราะยังมีอีกหลายเคสที่ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ไม่ได้ให้ความคุ้มครอง ถ้าหากคุณมีพฤติกรรม การขับขี่ประเภทนี้ แม้แต่ประกันชั้น 1 ก็ไม่ให้ความคุ้มครองค่ะ 

 

  • ขับขี้เมา ดื่มแหลก แจกค่าปรับประจำ โดยปกติกฎหมายกำหนดให้ผู้ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดได้ไม่เกิน 50 มิลลิกรัม บริษัทประกันฯ ถือว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นจากความประมาทเลินเล่อของผู้ขับขี่เอง ไม่รับเคลม 

 
 

  • ขับซิ่งสิงห์จ้าวถนน พวกนี้ชอบเอารถยนต์ไปใช้ผิดประเภท เช่น แข่งรถตามท้องถนน หรือแม้แต่ในสนามแข่ง ถือเป็นการใช้รถผิดประเทและขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ประกันไม่รับเคลมหากเกิดอุบัติเหตุ ควรเปลี่ยนโหมดไปขับรถ Formula 1 

 
 

  • ขับไร้ใบขับขี่ กรณีที่ผู้ทำประกันให้ผู้อื่นยืมรถไปโดยที่ผู้ที่ยืมรถไปใช้นั้นไม่มีใบอนุญาตขับขี่ หรือถูกตัดสิทธิ์ในการขับขี่ตามกฎหมาย เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นและบริษัทประกันฯ ตรวจสอบพบข้อเท็จจริงนี้ก็มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธความคุ้มครองได้ 

 
 

  • ขับไปลากไป ชอบเอารถไปใช้ลากจูงรถเสียคันอื่นเข้าอู่ เข้าข้างทาง หรือขนย้ายสิ่งของ จนเครื่องยนต์เกิดความเสียหายโดยไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ แบบนี้ประกันขอบาย นอกเสียจากว่าได้เพิ่มความคุ้มครองในส่วนนี้อยู่ก่อนแล้ว 

 
 

  • ขับแบกน้ำหนัก พวกชอบบรรทุกของไว้บนรถมากเกินพิกัด ใช้รถผิดประเภท จดทะเบียนส่วนบุคคลไว้ แต่เอาไปใช้ในเชิงพาณิชย์ จนทำให้รถเกิดความเสียหาย บริษัทประกันฯ ถือว่าความเสียหายนั้นเกิดจากความประมาทของผู้เอาประกัน ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ 

 
 

  • ขับปีละหน/ ไม่ยอมขับ ชอบจอดรถทิ้งเอาไว้โดยไม่ใช้เป็นระยะเวลานานๆ ซึ่งรถยนต์นั้นก็ไม่ได้ต่างจากสิ่งของอื่นๆ หากไม่ได้ใช้งานเป็นระยะเวลานานก็จะเกิดความเสื่อมความเสียหายได้ บริษัทประกันฯ จะไม่รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดจากกรณีนี้ เว้นเสียแต่ว่าการขาดการใช้รถยนต์นั้นเกิดจากทางบริษัทประกันภัยเอง 

 
 

  • ขับไม่รักรถ พวกขับอย่างเดียวไม่เคยเหลียวแลว่าบางรถยนต์ น้ำมันเครื่อง น้ำมันหล่อลื่นจะเสื่อมสภาพ ถึงเวลาเปลี่ยนแล้วหรือไม่ กรณีเครื่องพัง หรือยางแตกยางรั่วที่ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ ประกันชั้น 1 ไม่รับเคลมเช่นกัน (นอกจากจะซื้อความคุ้มครองเพิ่ม) 

 
 

  • ขับเคลมแหลก ปีหนึ่งๆ มีการเคลมเกิน 200% ของเบี้ยประกันสุทธิ (มากกว่า 2 ครั้ง /ปี) โดยมักเป็นฝ่ายผิด และมีค่าเสียหายเกินกว่า 200% ของค่าเบี้ยประกันสุทธิ แบบนี้บริษัทประกันฯ สามารถปรับค่าเบี้ยประกันให้สูงขึ้นได้ในปีต่อไป ให้เปลี่ยนประเภทการรับประเป็นเป็นประกันชั้นที่ลดหลั่นลงมา เช่น จากชั้น 1 เป็นชั้น 2+ ที่น่ากลัวก็คือประวัติการขับขี่ของคุณมีสิทธิ์โดนแบล็คลิสต์ หรืออาจถึงขั้นถูกบริษัทประกันฯ เซย์กู๊ดบายให้ไปทำประกันฯ กับที่อื่นเลยก็ได้ 

 
 

  • ขับชนเละ นักขับจอมประมาท มักขับรถไปชนจนเกิดความเสียหายบางส่วน ที่อาจจะยังซ่อมไหวอยู่ โดยค่าซ่อมนั้นไม่เกิน 70% ของทุนประกัน บริษัทประกันฯ จะจัดซ่อมให้เหมือนเดิม หรือจะชดเชยเป็นเงินสดเพื่อให้ลูกค้าไปซ่อมเองก็ได้ กรณีแบบนี้ประกันอาจจะขอสิ้นสุดความคุ้มครองทันทีหลังจากชำระเงินค่าชดเชยให้ผู้เอาประกันแล้ว 

 
 

  • ขับเสี่ยงภัย เสี่ยงอันตราย ท่านที่ชอบขับเข้าไปในเขตเกิดการจลาจล, ความไม่สงบทางการเมือง, สงครามกลางเมือง พื้นที่ที่มีความเสี่ยงภัยจากผู้ก่อการร้าย, กระสุนปืน, ระเบิด, วัตถุปรมาณู, นิวเคลียร์, และกัมมันตภาพรังสีจะถือว่าอยู่นอกเหนือจากความคุ้มครองของบริษัทประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 

 
 

  • ขับผิดกฎหมาย หากรถยนต์ที่เกิดเหตุนั้น เป็นรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุผิดกฎหมาย เช่น ปล้นทรัพย์ ขนยาเสพย์ติด เป็นต้น บริษัทประกันฯ จะไม่คุ้มครองรถยนต์คันนั้น 

 
 

  • ขับออกนอกเขตคุ้มครอง บริษัทประกันฯ อาจจะปฏิเสธไม่รับเคลม หากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นอยู่นอกอาณาเขตที่ให้ความคุ้มครอง โดยปกติจะหมายความถึงภายในประเทศไทยนั่นเอง ดังนั้น หากจะใช้รถยนต์เดินทางออกนอกประเทศก็ควรแจ้งบริษัทประกันฯ ก่อนเดินทาง เพื่อให้ออกกรมธรรม์ที่ครอบคลุมสำหรับทริปต่างประเทศของคุณ โดยคุณจะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพิ่มเติมในส่วนนี้ด้วย แต่ราคาจะไม่สูงเท่ากับเบี้ยประกันภัยทั่วไป เพราะเป็นความคุ้มครองระยะสั้น ๆ เท่านั้น 

 
 

  • ขับหัวหมอ หากเกิดอุบัติเหตุชนกับรถยนต์ที่เป็นทรัพย์สินของเจ้าของคนเดียวกัน ซึ่งเจ้าของนั้นก็คือตัวผู้เอาประกันเองหรือของพ่อ แม่ บุตร ภรรยา บริษัทประกันฯ จะไม่จ่ายให้คู่กรณี ถือเป็นทรัพย์สินของบุคคลเดียวกัน ไม่ใช่บุคคลภายนอก และอาจจะมองว่าผู้เอาประกันนั้นจงใจสร้างสถานการณ์ทำลายทรัพย์สินตัวเอง เพื่อหาประโยชน์จากประกันภัย ในจึงไม่ให้ความคุ้มครองในส่วนนี้ 

 

การขับขี่รถยนต์อย่างระมัดระวังเป็นเรื่องที่ผู้ขับขี่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก อย่าคิดว่าทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แล้ว จะสามารถเรียกเคลมเท่าไหร่หรืออย่างไรก็ได้ เพราะบริษัทประกันภัยรถยนต์เอง ก็มีสิทธิ์ปฏิเสธการให้ประกันภัยรถยนต์ของคุณได้เช่นกัน ต่อให้เปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์แห่งใหม่ ก็ยังเสี่ยงโดนแบล็คลิสต์อยู่ดี เพราะมีการแชร์ข้อมูลถึงกันอยู่เสมอ 

การใช้รถใช้ถนนอย่างไม่ประมาทจะช่วยลดอุบัติเหตุได้ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ดี ควรเลือกความคุ้มครองจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน ด้วยประกันภัยรถยนต์ จะประกันชั้น 1 ชั้น 2+ ชั้น 3+ หรือ ชั้น 3 กับ INSUREFRIEND ก็ช่วยคุ้มครองให้คุณอุ่นใจมากขึ้นนะคะ




 

 
 

My Instagram

Copyright © InsureFriend.net.